ภาษีมูลค่าเพิ่ม (Value Added Tax หรือ VAT)
ภาษีประเภทหนึ่งตามประมวลรัษฎากร ซึ่งกรมสรรพากรเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการรับผิดชอบจัดเก็บ โดยจัดเก็บได้จาก
- มูลค่าของการซื้อขายสินค้าหรือการให้บริการในประเทศ
- การนำเข้าสินค้า
- การให้บริการที่ทำต่างประเทศและนำบริการนั้นเข้ามาใช้ในประเทศด้วย
ซึ่งปัจจุบันมีอัตราจัดเก็บอยู่ที่ 7% จากเดิม 10%
ใครบ้างที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ผู้ประกอบกิจการที่มีรายได้จากการขายสินค้าหรือให้บริการ เกินกว่า 1.8 ล้านบาทต่อปี
- ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือบริการ ที่อยู่ในข้อบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม เช่น การก่อสร้าง โรงงาน ก่อสร้างอาคารสำนักงาน หรือติดตั้งเครื่องจักร
- ผู้ประกอบการอยู่นอกราชอาณาจักร และได้ขายสินค้าหรือบริการในราชอาณาจักร โดยมีตัวแทนอยู่ในราชอาณาจักร ให้ตัวแทนรับผิดชอบในการจดทะเบียน

VAT 0% คืออะไร?
VAT 0% มีผลเทียบเท่ากับการไม่เก็บภาษี แต่ยังต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.พ.30 เพื่อแสดงรายการภาษีขายและรายการภาษีซื้อ ซึ่งจะได้คืนในส่วนของภาษีซื้อทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าหรือบริการที่ส่งออก หรือนำไปใช้ยังต่างประเทศ ไม่ได้มีการใช้สินค้าหรือบริการในประเทศ จึงจะได้รับอัตราภาษีร้อยละ 0 มีผลเท่ากับไม่ต้องเสียภาษีจากการขายสินค้าหรือการให้บริการนั้น
ในกรณีที่จะนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 0 นั้นต้องเกิดจากการ
- มีรายได้ ตามมาตรา 80/1
- ขายสินค้าหรือให้บริการโดยการส่งออก
- การให้บริการขนส่งระหว่างประเทศโดยอากาศยาน หรือเรือเดินทะเลที่กระทำโดยผู้ประกอบการที่เป็นนิติบุคคล
- การขายสินค้าหรือการให้บริการกับภาครัฐ ทั้งกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่นหรือรัฐวิสาหกิจโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ
- การขายสินค้าหรือการให้บริการกับองค์การสหประชาชาติ ทบวงการชำนาญพิเศษของสหประชาชาติ สถานเอกอัครราชทูต สถานทูต สถานกงสุลใหญ่
- การขายสินค้าหรือการให้บริการระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนกับคลังสินค้าทัณฑ์บน หรือระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการที่อยู่ในเขตปลอดอากรไม่ว่าจะอยู่ในเขตเดียวกันหรือไม่ หรือระหว่างคลังสินค้าทัณฑ์บนกับผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการอยู่ในเขตปลอดอากร
ตัวอย่างของการเสีย VAT 0%
หากบริษัทมีการส่งสินค้าไปขายยังต่างประเทศ 200,000 บาท จะต้องมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการ ภ.พ.30 เพื่อแสดงรายการภาษีขาย และรายการภาษีซื้อทั้งหมด โดยมีการคิดในอัตรา 0% ซึ่งจะเท่ากับไม่ต้องจ่ายภาษีในการส่งออก 200,000 บาท แต่ต้องมีการออกใบกำกับภาษี และต้องมีการนำมารวมคำนวณในแบบ ภ.พ.30 (ข้อ 2)

การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม คือ การไม่นำรายได้มาคำนวณภาษีซึ่งจะต้องมีการนำมารวมคำนวณในแบบ ภ.พ.30 ข้อ 3 ซึ่งจะได้รับการยกเว้นในกิจการบางประเภทที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
ตัวอย่างกิจการที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม มีดังนี้
- ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าพืชผลทางการเกษตร สัตว์ไม่ว่ามีชีวิตหรือไม่มีชีวิต ปุ๋ย ปลาป่นอาหารสัตว์ ยาหรือเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับพืชหรือสัตว์ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร หรือตำราเรียน
- ผู้ประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการ ซึ่งไม่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมายและมีรายรับไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
- การให้บริการขนส่งในราชอาณาจักรโดยท่าอากาศยาน
- การส่งออกของผู้ประกอบการในเขตอุตสาหกรรมส่งออกตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
- การให้บริการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงทางท่อในราชอาณาจักร
ใครบ้างที่ไม่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
- ผู้ประกอบการที่มีรายรับจากการขายสินค้าหรือให้บริการไม่เกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
- ผู้ประกอบการที่ขายสินค้าหรือให้บริการที่ได้รับยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามกฎหมาย
- ผู้ประกอบการที่อยู่นอกราชอาณาจักรและเข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นครั้งคราว (ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของกรมสรรพากร)
- ผู้ประกอบการที่ได้รับการประกาศจากกรมสรรพากร
ตัวอย่างการได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
ผู้ประกอบการที่ประกอบกิจการขายสินค้าทางเกษตร มีรายได้ต่อปีเพียง 1,000,000 บาท ถือว่ามีรายได้ไม่เกิน 1.8 ล้านบาท/ปี ผู้ประกอบการจึงไม่ต้องมีการยื่นแบบแสดงรายการ

ที่มา : https://www.getinvoice.net/vat-0/
--------------------------------------------------------------------------------------
สอบถามเพิ่มเติม :
บริษัท นคร แอคเค้าน์ติ้ง ซัพพอร์ท จำกัด
Nakhon Accounting Support
โทร 063-9782261 , 082-6962896