1. ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ (Full Tax Invoice)
มีรายละเอียดครบถ้วน เช่น ชื่อ-ที่อยู่ของผู้ซื้อและผู้ขาย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี รายการสินค้า/บริการ ราคา ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) และวันที่ออกใบกำกับภาษี มักใช้ในการทำธุรกรรมระหว่างบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่
2. ใบกำกับภาษีอย่างย่อ (Abbreviated Tax Invoice)
ใช้ในธุรกรรมที่เป็นการขายปลีก เช่น ร้านสะดวกซื้อหรือห้างสรรพสินค้า โดยมีข้อมูลสำคัญ เช่น วันที่ ชื่อสินค้า จำนวนเงิน รวมภาษี แต่ไม่ต้องระบุชื่อ-ที่อยู่ของผู้ซื้อ
3. ใบเพิ่มหนี้ (Debit Note)
ใช้ในกรณีที่ต้องเพิ่มมูลค่าหรือจำนวนเงินในรายการสินค้าหรือบริการที่ออกใบกำกับภาษีไว้ก่อนหน้า เช่น การคิดค่าส่งเพิ่มเติม
4. ใบลดหนี้ (Credit Note)
ใช้ในกรณีที่ต้องลดมูลค่าหรือจำนวนเงินในรายการสินค้าหรือบริการ เช่น การคืนสินค้า การลดราคาภายหลัง หรือการคิดค่าส่งผิด
5. ใบเสร็จรับเงินที่ส่วนราชการออกให้ในการขายทอดตลาดหรือโดยวิธีอื่น
ใช้ในกรณีที่ส่วนราชการขายสินค้าหรือทรัพย์สินโดยการขายทอดตลาดหรือวิธีอื่น ใบเสร็จรับเงินนี้จะทำหน้าที่แทนใบกำกับภาษีตามที่กฎหมายกำหนด
6. ใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรสำหรับการชำระภาษีมูลค่าเพิ่ม
กรณีที่ผู้ประกอบการหรือบุคคลชำระภาษีมูลค่าเพิ่มโดยตรงกับกรมสรรพากร เช่น กรณีที่ไม่ได้ออกใบกำกับภาษีด้วยตนเอง
7. ใบเสร็จรับเงินของกรมศุลกากรหรือกรมสรรพสามิต
ในกรณีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มแทนกรมสรรพากร เช่น การนำเข้าสินค้าหรือการชำระภาษีในกรณีที่เกี่ยวข้อง