การยืนยันตัวตนเพื่อใช้งานระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล

Last updated: 20 ธ.ค. 2568 | 58 จำนวนผู้เข้าชม |

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย พัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล DBD Biz Regist

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พัฒนาระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล DBD Biz Regist และเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2568 เป็นต้นมา โดยระบบดังกล่าวมีการกำหนด “7 ด่านความปลอดภัย” เพื่อป้องกันการแอบอ้าง การปลอมแปลงเอกสาร และการใช้ข้อมูลโดยมิชอบ นอกจากนี้จะยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบจดทะเบียนดังกล่าวให้สูงขึ้น เพิ่มมาตรการป้องกันที่สำคัญอีก 2 มาตรการ เพื่อสร้างระบบจดทะเบียนที่มีความปลอดภัยและปิดช่องโหว่มิจฉาชีพนำไปใช้แสวงหาประโยชน์และกระทำผิดกฎหมาย

ระบบ DBD Biz Regist เป็นการปฏิรูประบบจดทะเบียนนิติบุคคลของไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง โดยมีมาตรการความปลอดภัยครอบคลุมทุกมิติ เพื่อป้องกันการแอบอ้าง การปลอมแปลงเอกสาร และการใช้ข้อมูลโดยมิชอบ โดยระบบดังกล่าวได้มีการกำหนด “7 ด่านความปลอดภัย” เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการ ดังนี้

1. ลงทะเบียนยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน

ผู้แทนจดทะเบียนและผู้รับรองลายมือชื่อต้องสมัครสมาชิกและยืนยันตัวตนในระบบก่อนทุกครั้ง เพื่อยืนยันว่าผู้ดำเนินการมีตัวตนจริง ตรวจสอบและติดตามได้

2. ข้อมูลต้องตรงกับฐานข้อมูลจริง

ระบบจะตรวจสอบข้อมูลกับฐานข้อมูลกรมการปกครอง (DOPA 5 fields) ได้แก่ เลขบัตรประชาชน ชื่อ นามสกุล วันเดือนปีเกิด และเลขเลเซอร์หลังบัตร ส่วนคนต่างชาติใช้ข้อมูลจากหนังสือเดินทาง

3. ระบบแจ้งเตือนทางอีเมล

ผู้ที่ต้องลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกคนจะได้รับอีเมลแจ้งเตือนเพื่อยืนยันการลงนาม ป้องกันการถูกแอบอ้างใช้ชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต

4. ลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์มาตรฐานสูง

ระบบรองรับการลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ ผ่านเครื่องมือที่มีมาตรฐานสูง ได้แก่

แอปพลิเคชัน ThaiD ของกรมการปกครอง
แอปพลิเคชัน DBD e-Service ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ
ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่าน (Username & Password) + OTP โดยทั้งหมดนี้ต้องผ่านการยืนยันตัวตนก่อน ทำให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับและมีผลผูกพันผู้ที่ลงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์ได้ตามกฎหมาย

5. ลงนามต่อหน้านายทะเบียนหรือผู้รับรองลายมือชื่อที่ได้รับอนุญาต

สำหรับคำขอที่เลือกลงลายมือชื่อในคำรับรอง (Consent Form) จะต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเองต่อหน้านายทะเบียน หรือต่อหน้าผู้รับรองลายมือชื่อที่กรมฯ กำหนดไว้ เช่น ทนายความ ผู้ทำบัญชี และผู้สอบบัญชี เป็นต้น ซึ่งผู้รับรองลายมือชื่อทุกคนต้องผ่านการสมัครสมาชิกและยืนยันตัวตนในระบบ

6. การชำระค่าธรรมเนียมโปร่งใส ตรวจสอบได้

การชำระค่าธรรมเนียมจดทะเบียนดำเนินการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น แอปพลิเคชันธนาคารหรืออินเทอร์เน็ตแบงก์กิ้ง ซึ่งตรวจสอบได้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชำระเงิน

7. ตรวจสอบแหล่งที่มาของผู้ทำธุรกรรมได้

ระบบสามารถตรวจสอบ IP Address ของเครื่องหรืออุปกรณ์ที่ใช้ยื่นคำขอ ทำให้ทราบได้ว่าธุรกรรมมาจากคอมพิวเตอร์หรือสถานที่ใด

แม้ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลดิจิทัล “DBD Biz Regist” ดังกล่าวจะมีข้อดีหลายประการ แต่ก็อาจจะยังมีจุดที่มิจฉาชีพหรือผู้ที่ไม่ประสงค์ดีใช้เป็นช่องทางในการกระทำความผิด เช่น กรณีทนายความชาวฝรั่งเศสถูกจดทะเบียนให้ออกจากการเป็นกรรมการและมีการถอนเงินในบัญชีของบริษัท สร้างความเสียหาย 18 ล้านบาท ดังนั้น เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของระบบจดทะเบียนดังกล่าวให้สูงขึ้นอีกขั้น กรมฯ จะเพิ่มมาตรการป้องกันที่สำคัญอีก 2 มาตรการ ได้แก่

เพิ่มฟังก์ชันแจ้งเตือนนิติบุคคลแบบ Real-Time เมื่อมีผู้เข้าสร้างคำขอจดทะเบียนของบริษัทใดในระบบ DBD Biz Regist ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังอีเมลของนิติบุคคลโดยอัตโนมัติ เพื่อให้นิติบุคคลรับรู้ รับทราบ
กำหนดให้ผู้รับรองลายมือชื่อและผู้รับจ้างจดทะเบียนทุกคนต้องลงทะเบียนและยืนยันตัวตนในระบบ พร้อมกำหนดบทลงโทษที่เข้มงวดสำหรับผู้ที่ปฏิบัติผิดเงื่อนไข เช่น ไม่ได้ให้กรรมการลงลายมือชื่อต่อหน้าตนเองจริง หรือรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ