อยากจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน ต้องรู้อะไรบ้าง?

วิสาหกิจชุมชน คืออะไร?

     วิสาหกิจชุมชน (Community Enterprise) คือ กิจการของชุมชนเกี่ยวกับการผลิตสินค้า การให้บริการ หรือการอื่น ๆ ที่ดําเนินการโดยคณะบุคคลที่มีความผูกพัน และมีวิถีชีวิตร่วมกันในชุมชน โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้ พึ่งพาตนเอง และสร้างความเข้มแข็งให้กับครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชนได้

ลักษณะสำคัญของวิสาหกิจชุมชน

วิสาหกิจชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน มีลักษณะสำคัญ ดังนี้

1. ชุมชนเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการ
2. ผลผลิตมาจากกระบวนการในชุมชน โดยใช้วัตถุดิบ ทรัพยากร ทุน และแรงงานในชุมชนเป็นหลัก
3. ริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นนวัตกรรมของชุมชน
4. มีฐานภูมิปัญญาท้องถิ่น ผสมผสานกับภูมิปัญญาสากล
5. มีการดำเนินการแบบบูรณาการ เชื่อมโยงกิจกรรมต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ
6. มีกระบวนการเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญ
7. มีการพึ่งพาตนเอง ครอบครัว และชุมชนเป็นเป้าหมาย

จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน มีหลักเกณฑ์อะไรบ้าง?

     วิสาหกิจที่อยากจดทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อมีคำนำหน้าชื่อว่า “วิสาหกิจชุมชน” ตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ. 2548 ต้องมีคุณสมบัติและหลักเกณฑ์ ทั้งหมด 4 ข้อตามนี้

1. ประเภทกิจการ

     ต้องเป็นกิจการที่เกี่ยวกับการผลิตสินค้า ให้บริการ หรือกิจการอื่นๆ ที่ทำให้พัฒนาและแก้ไขปัญหาของชุมชน 

2. รูปแบบ

     จะจดเป็นนิติบุคคลหรือไม่เป็นนิติบุคคลก็ได้ โดยเงื่อนไขจะต้องมีสมาชิกในชุมชนไม่น้อยกว่า 7 คนรวมตัวกัน และสมาชิกเหล่านี้จะต้องไม่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน

3. วัตถุประสงค์

     ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างรายได้ ให้พึ่งพาตัวเองได้ และมีประโยชน์ต่อคนในชุมชน

4. กฎหมาย

     กิจการที่ทำจะต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ความสงบเรียบร้อย และต้องอยู่ในศีลธรรม

หน้าที่ทางบัญชี และภาษีที่ต้องจัดทำ

     เช่นเดียวกับธุรกิจทั่วไป วิสาหกิจชุมชนที่จัดตั้งขึ้นมาจะต้องทำบัญชีและจัดการเรื่องภาษีตามที่กฎหมายกำหนด โดยจะต้องรู้ก่อนว่ารูปแบบวิสาหกิจชุมชนนั้นเป็นบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล

รูปแบบ

• บุคคลธรรมดา : การรวมตัวกันของสมาชิก 7 คน ในทางกฎหมายเราเรียกว่า “คณะบุคคล” หรือหุ้นส่วนสามัญ
• นิติบุคคล : ต้องจดทะเบียนกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ซึ่งเลือกได้หลายรูปแบบ เช่น ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด

การทำบัญชี

• บุคคลธรรมดา : กฎหมายไม่ได้บังคับให้ต้องทำบัญชีและมีงบการเงินส่งทุกปี แต่ถ้าอยากใช้ค่าใช้จ่ายคำนวณภาษีตามจริงก็ต้องทำบัญชีและมีหลักฐานประกอบ 
• นิติบุคคล : กฎหมายบังคับให้นิติบุคคลทำบัญชีและนำส่งงบการเงินเป็นประจำทุกปี

การยื่นภาษี

     วิสาหกิจชุมชนต้องยื่นคำร้องขอมีเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของวิสาหกิจชุมชน ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขาที่วิสาหกิจชุมชนมีภูมิลำเนาตั้งอยู่

• บุคคลธรรมดา : นำส่งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ x อัตราภาษี (5-35%) ซึ่งเงินได้สุทธิสามารถคำนวณจากเงินได้ หักด้วยค่าใช้จ่าย (ตามจริงหรือแบบเหมา) ถ้าเลือกที่จะหักค่าใช้จ่ายตามจริง ก็จะต้องทำบัญชีและมีเอกสารประกอบด้วย
• นิติบุคคล : นำส่งภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยคำนวณจากกำไรสุทธิทางภาษี x อัตราภาษี (สูงสุด 20%) ซึ่งกำไรสุทธิทางภาษีจะคำนวณได้ก็ต่อเมื่อเราทำบัญชีตามกฎหมายเท่านั้น
  

เป็นวิสาหกิจชุมชนมีประโยชน์อย่างไร?

1. ได้รับการรับรองสถานะในการรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนตามกฎหมาย 
2. มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น เช่น รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐหรือเอกชน
3. ได้รับการส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐได้ เช่น เรื่องจดทะเบียนสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า หรือทรัพย์สินทางปัญญา ขึ้นทะเบียน อย. และการศึกษาวิจัย เป็นต้น
4. การส่งเสริมหรือสนับสนุนจากมาตรการที่คณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนกำหนด เช่น ทำการตลาด เข้ารับการอบรม เป็นต้น
5. ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี

     บางครั้งเป้าหมายในการทำธุรกิจของเราอาจไม่ใช่แค่การสร้างกำไร แต่เป็นการช่วยกระจายรายได้ให้คนในชุมชนได้อยู่กันอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนรวมถึงการทำบัญชีและยื่นภาษีอย่างถูกต้องก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับทุกท่านได้

ที่มา : https://flowaccount.com/blog/registration-community-enterprise/

--------------------------------------------------------------------------------------

สอบถามเพิ่มเติม

   บริษัท นคร แอคเค้าน์ติ้ง ซัพพอร์ท จำกัด

   Nakhon Accounting Support

   โทร 063-9782261 , 082-6962896