Payment Gateway คืออะไร? ทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้!

Last updated: 4 พ.ย. 2568  |  48 จำนวนผู้เข้าชม  | 

Payment Gateway คืออะไร? ทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้!

Payment Gateway คืออะไร? ทำธุรกิจออนไลน์ต้องรู้!



Payment Gateway คืออะไร?

     Payment Gateway คือ ระบบชำระเงินออนไลน์ที่ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างเว็บไซต์ร้านค้าของคุณ กับธนาคารหรือผู้ให้บริการทางการเงิน (Payment Processor) เพื่ออนุมัติและดำเนินการรับชำระเงินจากลูกค้าแบบเรียลไทม์ เปรียบเสมือนเครื่องรูดบัตรเครดิต (EDC) บนโลกออนไลน์ ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถรับเงินจากลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

     หากยังสงสัยว่า Payment Gateway คืออะไร ลองนึกภาพตามง่าย ๆ เมื่อลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าและเลือกชำระเงินบนเว็บไซต์ ระบบ Online Payment Gateway จะเข้ารหัสข้อมูลบัตรเครดิตหรือข้อมูลทางการเงินของลูกค้า แล้วส่งต่อไปยังธนาคารเพื่อตรวจสอบและอนุมัติวงเงิน เมื่อธนาคารอนุมัติ ระบบจะแจ้งกลับมายังเว็บไซต์ว่าการชำระเงินสำเร็จ และร้านค้าก็จะสามารถดำเนินการจัดส่งสินค้าต่อไปได้ โดยกระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น



Payment Gateway มีกี่ประเภท ?

     หลังจากเข้าใจแล้วว่า Payment Gateway คืออะไร สิ่งสำคัญต่อมาคือการเลือกว่าจะใช้บริการจากผู้ให้บริการรายใด ซึ่งในประเทศไทยสามารถแบ่งผู้ให้บริการ Payment Gateway ออกได้เป็น 2 รูปแบบใหญ่ ๆ ได้แก่ 


1. Payment Gateway แบบเชื่อมกับธนาคารโดยตรง (Bank)

     Payment Gateway แบบธนาคาร คือ การสมัครใช้บริการกับธนาคารโดยตรง ข้อดีคือเงินค่าสินค้าจะถูกโอนเข้าบัญชีของร้านค้าที่เปิดไว้กับธนาคารนั้น ๆ โดยตรง ซึ่งให้ความรู้สึกปลอดภัยและน่าเชื่อถือสูง เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการจดทะเบียนบริษัทและมีบัญชีนิติบุคคลกับธนาคารอยู่แล้ว แต่อาจมีขั้นตอนการสมัครที่ใช้เอกสารค่อนข้างเยอะและใช้เวลาอนุมัตินานกว่า

ตัวอย่างผู้ให้บริการ Payment Gateway แบบเชื่อมกับธนาคาร :

  • K-Payment Gateway (ธนาคารกสิกรไทย)
  • SCB Payment Gateway (ธนาคารไทยพาณิชย์)
  • Krungsri Biz-Gateway (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา)
  • Merchant iPay (ธนาคารกรุงเทพ)



2. Payment Gateway แบบผ่านผู้ให้บริการตัวกลาง (Non-Bank) 

     Payment Gateway แบบ Non-Bank คือ ผู้ให้บริการด้าน Payment Gateway ที่ไม่ใช่สถาบันธนาคาร (FinTech) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางรับชำระเงินแทนร้านค้า จุดเด่นของ Online Payment Gateway รูปแบบนี้คือขั้นตอนการสมัครที่ง่ายและรวดเร็วกว่ามาก เอกสารไม่ซับซ้อน บุคคลธรรมดาก็สามารถสมัครได้ มีความยืดหยุ่นสูง และมักจะมีช่องทางการชำระเงินที่หลากหลายกว่า เช่น รองรับ E-wallet หลายเจ้า ทำให้ตอบโจทย์ธุรกิจ Start Up หรือธุรกิจ Software Technology ได้เป็นอย่างดี

ตัวอย่างผู้ให้บริการ Payment Gateway แบบ Non-Bank :

  • Stripe 
  • Omise
  • 2C2P
  • PayPal



Payment Gateway มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร?

     เบื้องหลังการชำระเงินที่สำเร็จภายในไม่กี่วินาทีนั้น มีกระบวนการที่ซับซ้อนและปลอดภัยสูงเกิดขึ้น ซึ่ง Payment Gateway คือตัวกลางที่คอยประสานงานระหว่างส่วนต่าง ๆ ทั้งหมด เพื่อให้คุณเห็นภาพชัดเจนขึ้น เราสามารถสรุปขั้นตอนการทำงานโดยละเอียดได้ดังนี้

Step 1 : ลูกค้าเริ่มต้นการชำระเงิน (Initiation)

     เมื่อลูกค้าเลือกสินค้าใส่ตะกร้าและเข้าสู่หน้าชำระเงิน (Checkout) ลูกค้าจะกรอกข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อ, หมายเลขบัตรเครดิต/เดบิต, วันหมดอายุ และรหัส CVV บนหน้าเว็บที่ปลอดภัย (มีการเข้ารหัสแบบ SSL)

Step 2 : การเข้ารหัสและส่งข้อมูล (Encryption & Submission)

     ทันทีที่ลูกค้ายืนยันการชำระเงิน Web Browsers จะทำการเข้ารหัส (Encryption) ข้อมูลทางการเงินทั้งหมด เพื่อป้องกันการดักจับข้อมูลระหว่างทาง จากนั้นข้อมูลที่ปลอดภัยแล้วจะถูกส่งจากเว็บไซต์ของคุณไปยัง Payment Gateway ที่คุณใช้บริการ

Step 3 : การส่งต่อไปยังเครือข่ายประมวลผล (Processing)

     เมื่อ Payment Gateway ได้รับข้อมูล จะทำการตรวจสอบเบื้องต้นและส่งต่อไปยัง Payment Processor ของธนาคารฝั่งร้านค้า (Acquiring Bank) จากนั้น Processor จะส่งคำขออนุมัติรายการต่อไปยังเครือข่ายบัตรเครดิตที่เกี่ยวข้อง เช่น Visa, Mastercard, หรือ JCB

Step 4 : การตรวจสอบและขออนุมัติจากธนาคารผู้ออกบัตร (Authorization)

     เครือข่ายบัตรเครดิตจะส่งต่อคำขอไปยัง ธนาคารผู้ออกบัตร (Issuing Bank) ซึ่งเป็นธนาคารเจ้าของบัตรของลูกค้า ธนาคารจะทำการตรวจสอบทันทีว่าบัตรสามารถใช้งานได้หรือไม่, มีวงเงินเพียงพอหรือไม่, และธุรกรรมมีความเสี่ยงทุจริตหรือไม่ จากนั้นจะส่งรหัสตอบกลับ (อนุมัติ หรือ ปฏิเสธ) กลับมาตามเส้นทางเดิม

Step 5 : การแจ้งผลลัพธ์กลับสู่ร้านค้าและลูกค้า (Response)

     รหัสตอบกลับจะถูกส่งจากธนาคารผู้ออกบัตรกลับมายังเครือข่ายบัตร, Payment Processor, และมาถึง Payment Gateway ในที่สุด ซึ่ง Gateway จะส่งผลลัพธ์สุดท้ายนี้ต่อไปยังเว็บไซต์ของคุณ เพื่อแสดงข้อความ “การชำระเงินสำเร็จ” หรือ “การชำระเงินล้มเหลว” ให้ลูกค้าทราบ กระบวนการทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียง 2-3 วินาทีเท่านั้น

Step 6 : การโอนเงินเข้าบัญชีร้านค้า (Settlement)

     แม้ว่ารายการจะได้รับอนุมัติทันที แต่เงินจะยังไม่เข้าบัญชีร้านค้าในตอนนั้น ในขั้นตอนสุดท้ายที่เรียกว่า Settlement ธนาคารผู้ออกบัตรจะทำการโอนเงินจริงมายังธนาคารฝั่งร้านค้า ซึ่งจากนั้นธนาคารจะนำเงินเข้าบัญชีธุรกิจของคุณตามรอบที่กำหนด (โดยทั่วไปใช้เวลา 1-3 วันทำการ) หลังจากหักค่าธรรมเนียมเรียบร้อยแล้ว



     จากขั้นตอนการทำงานของ Payment Gateway ที่กล่าวไป จะเห็นได้ว่า Payment Gateway เป็นมากกว่าแค่ระบบรับชำระเงินออนไลน์ แต่คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ และการลงทุนเลือกใช้บริการที่เหมาะสม เป็นก้าวสำคัญสู่การเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน


ทำไม Payment Gateway ถึงสำคัญกับธุรกิจออนไลน์ หรือ E-Commerce ? 

     เพราะในปัจจุบันการมีระบบรับชำระเงินที่ดีไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน และนี่คือเหตุผลว่าทำไม Payment Gateway คือองค์ประกอบสำคัญที่ธุรกิจของคุณต้องมี

1. ทำให้ลูกค้ามีช่องทางชำระเงินหลากหลาย

     พฤติกรรมการชำระเงินของผู้บริโภคในปัจจุบันมีความหลากหลาย การจำกัดช่องทางการชำระเงินเพียงไม่กี่รูปแบบอาจทำให้ธุรกิจสูญเสียโอกาสในการขาย การนำระบบ Payment Gateway มาใช้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถรองรับช่องทางการชำระเงินที่ครอบคลุม ทั้งในรูปแบบ QR Code, PromptPay, บัตรเดบิต และบัตรเครดิต ถือเป็นการสร้างความสะดวกและมอบทางเลือกให้แก่ลูกค้า ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขันที่สำคัญและช่วยเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี

2. มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงกว่า

     ความปลอดภัยคือหัวใจสำคัญของการทำธุรกรรมออนไลน์ การใช้ Payment Gateway คือการยกระดับความปลอดภัยให้สูงกว่าการรับโอนเงินโดยตรงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากผู้ให้บริการส่วนใหญ่ได้มาตรฐาน PCI DSS (Payment Card Industry Data Security Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลบัตรชำระเงินที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลบัตรเครดิตที่ละเอียดอ่อนของลูกค้าจะถูกเข้ารหัสและจัดการอย่างรัดกุม ป้องกันการรั่วไหลหรือการถูกโจรกรรมข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้าในการชำระเงินกับร้านค้าของคุณ

3. ลดความผิดพลาดและภาระงานด้านบัญชี

     ทุกรายการชำระเงินจะถูกบันทึกอย่างเป็นระบบ สามารถตรวจสอบยอดเงินเข้า-ออกได้อย่างง่ายดาย ช่วยลดความผิดพลาดที่เกิดจากการรับเงินสดหรือการจดบันทึกด้วยตนเอง ทำให้การกระทบยอดบัญชี (Reconcile) ทำได้อย่างสะดวกและแม่นยำยิ่งขึ้น 

4. รองรับการขยายธุรกิจในอนาคตได้

     ไม่ว่าธุรกิจของคุณจะเติบโตแค่ไหน ระบบ Online Payment Gateway ก็พร้อมรองรับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้น รวมถึงสามารถขยายการรับชำระเงินจากลูกค้าต่างประเทศได้อีกด้วย





ที่มา : https://flowaccount.com/blog/payment-gateway-via-credit-card/






-------------------------------------------------------------------------------------

สอบถามเพิ่มเติม

   บริษัท นคร แอคเค้าน์ติ้ง ซัพพอร์ท จำกัด

   Nakhon Accounting Support

   โทร 063-9782261 , 082-6962896

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้