งบทดลองคืออะไร ทำไมธุรกิจถึงต้องทำงบทดลอง?

Last updated: 16 ธ.ค. 2568  |  99 จำนวนผู้เข้าชม  | 

งบทดลองคืออะไร ทำไมธุรกิจถึงต้องทำงบทดลอง?

งบทดลองคืออะไร ทำไมธุรกิจต้องทำงบทดลอง?


งบทดลอง คืออะไร ? 

     งบทดลอง (Trial Balance) คือ รายงานบัญชีที่แสดงยอดคงเหลือของบัญชีทุกบัญชี ณ วันใดวันหนึ่ง โดยสรุปผลแยกเป็นฝั่ง เดบิต (Debit) และ เครดิต (Credit) ตามระบบบัญชีคู่ (Double Entry System) ซึ่งผลรวมของยอดเดบิตจะต้องเท่ากับยอดเครดิตเสมอ หากยอดไม่เท่ากัน แปลว่าอาจมีข้อผิดพลาดในการบันทึกบัญชีที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม


งบทดลอง สำคัญกับการทำบัญชีอย่างไร ?

     งบทดลอง มีบทบาทสำคัญในการช่วยตรวจสอบความถูกต้องของการบันทึกบัญชีในแต่ละงวด หากงบทดลองมีความถูกต้อง จะช่วยให้ขั้นตอนการปิดงบและจัดทำงบการเงินเป็นไปอย่างราบรื่น และลดโอกาสเกิดความผิดพลาดที่อาจส่งผลต่อการยื่นงบการเงินต่อหน่วยงานภายนอกหรือการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของธุรกิจได้

สรุปความสำคัญของงบทดลอง ได้แก่

  • ใช้ตรวจสอบความถูกต้องของการบันทึกบัญชี
  • ช่วยให้พบความผิดปกติได้ทันที เช่น เดบิตและเครดิตไม่เท่ากัน หรือบันทึกบัญชีผิดหมวด
  • เป็นข้อมูลตั้งต้นในการจัดทำงบการเงิน
  • หากงบทดลองถูกต้อง ก็สามารถนำไปต่อยอดเป็นงบกำไรขาดทุน และงบแสดงฐานะการเงินได้อย่างถูกต้อง
  • ช่วยให้บริหารจัดการข้อมูลการเงินได้เป็นระบบ
  • นักบัญชี เจ้าของกิจการ และผู้บริหารสามารถใช้ข้อมูลงบทดลองเพื่อประเมินสถานะการเงินของธุรกิจได้อย่างมั่นใจ


งบทดลองมีกี่ประเภท?

     ก่อนจะเข้าสู่การจัดทำงบการเงิน ธุรกิจจะต้องผ่านการตรวจสอบยอดบัญชีหลายครั้งเพื่อให้มั่นใจว่าตัวเลขทั้งหมดถูกต้อง งบทดลองจึงถูกจัดทำในแต่ละช่วงขั้นตอนของการปิดบัญชี ส่งผลให้มี “งบทดลองหลายประเภท” โดยแต่ละประเภทก็มีบทบาทต่างกันดังนี้

งบทดลองก่อนปรับปรุง

     งบทดลองก่อนปรับปรุง คือ งบทดลองที่จัดทำขึ้นก่อนการบันทึกรายการปรับปรุงบัญชีในงวดนั้น ๆ เช่น ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย รายได้ค้างรับ หรือค่าเสื่อมราคา งบทดลองรูปแบบนี้ช่วยให้เห็นข้อมูลบัญชี ตามที่บันทึกไว้จริงจากรายการซื้อ - ขาย - จ่าย - รับ ในช่วงระหว่างงวด โดยยังไม่ได้สะท้อนรายการที่ควรรับรู้ตามเกณฑ์คงค้าง (Accrual Basis) อย่างครบถ้วน

     ดังนั้น งบทดลองก่อนปรับปรุงจึงเหมาะสำหรับใช้ตรวจสอบความถูกต้องขั้นต้น ว่าการบันทึกบัญชีในรอบงวดเป็นไปตามหลักบัญชีคู่หรือไม่

งบทดลองหลังปรับปรุง

     งบทดลองหลังปรับปรุง คือ งบทดลองที่จัดทำขึ้นหลังจากบันทึกรายการปรับปรุงบัญชีเรียบร้อยแล้ว เช่น

  • บันทึกค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
  • บันทึกรายได้ค้างรับ
  • ตัดค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์
  • ปรับปรุงยอดต่าง ๆ ให้สะท้อนความเป็นจริงของธุรกิจ

     งบทดลองประเภทนี้จึงเป็นรายงานที่สะท้อนผลการดำเนินงานของธุรกิจได้ใกล้เคียงความเป็นจริงมากที่สุด และเป็นข้อมูลที่ใช้ในการจัดทำงบฐานะการเงิน และงบกำไรขาดทุน

งบทดลองหลังปิดบัญชี

     งบทดลองหลังปิดบัญชี คือ งบทดลองที่จัดทำขึ้นหลังปิดบันทึกบัญชีสิ้นงวด (เช่น สิ้นเดือนหรือสิ้นปี) และได้ทำการปิดบัญชีรายได้ - ค่าใช้จ่าย โอนเข้าไปเป็นกำไรสะสมเรียบร้อยแล้ว รายงานนี้จะเหลือเฉพาะบัญชีที่เป็นงบฐานะการเงิน ได้แก่

  • สินทรัพย์
  • หนี้สิน
  • ทุน

     จุดประสงค์ของงบทดลองหลังปิดบัญชี คือ เพื่อยืนยันว่ายอดคงเหลือทั้งหมดพร้อมสำหรับเริ่มต้นงวดใหม่อย่างถูกต้องและเป็นระบบ

ส่วนประกอบของงบทดลอง มีอะไรบ้าง ? 

     งบทดลองที่ดีและสมบูรณ์จะต้องแสดงข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน เพื่อใช้ในการพิสูจน์ความเท่ากันของยอดเดบิตและเครดิตในบัญชีแยกประเภท ก่อนนำไปจัดทำงบการเงินในลำดับถัดไป ซึ่งองค์ประกอบสำคัญที่ต้องปรากฏในงบทดลอง ดังนี้

  • ชื่อกิจการ : ชื่อบริษัทหรือชื่อผู้ประกอบการ
  • ชื่อรายงาน : งบทดลอง (Trial balance)
  • วันที่จัดทำงบทดลอง : มักระบุเป็นวันสิ้นเดือนหรือวันสิ้นรอบบัญชี เช่น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2568
  • เลขที่บัญชี : ตามการแยกหมวดบัญชีทั้ง 5 หมวด (การระบุเลขที่บัญชีจะช่วยให้การค้นหาบัญชีต่าง ๆ ในระบบทำได้ง่ายขึ้น)
  • ชื่อบัญชี : เช่น เงินสด, ลูกหนี้, เจ้าหนี้, รายได้, ค่าใช้จ่าย
  • ยอดเดบิต : ยอดคงเหลือทางด้านเดบิตของแต่ละบัญชี
  • ยอดเครดิต : ยอดคงเหลือทางด้านเครดิตของแต่ละบัญชี
  • ยอดรวมฝั่งเดบิต : ผลรวมฝั่งเดบิตของทุกบัญชี
  • ยอดรวมฝั่งเครดิต : ผลรวมฝั่งเครดิตของทุกบัญชี

ตัวอย่างงบทดลอง



วิธีการจัดทำงบทดลอง

     การจัดทำงบทดลอง เป็นขั้นตอนสำคัญในการตรวจสอบความถูกต้องของบัญชี ก่อนจะนำไปสู่การปิดงบและจัดทำงบการเงินประจำงวด โดยสามารถทำตามลำดับขั้นตอนได้ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 : รวบรวมยอดคงเหลือของบัญชีแยกประเภททุกบัญชี

     เริ่มจากตรวจสอบและรวบรวมยอดคงเหลือของแต่ละบัญชีจากบัญชีแยกประเภท (General Ledger) ซึ่งเป็นข้อมูลที่ได้จากการบันทึกบัญชีต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในกิจการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้า การขาย การรับเงิน หรือการจ่ายเงิน รายการเหล่านี้ถูกบันทึกแยกตามชื่อบัญชีเอาไว้แล้ว และมียอดคงเหลือที่ถูกคำนวณไว้ ณ สิ้นงวดบัญชี โดยยอดคงเหลือของแต่ละบัญชีจะอยู่ฝั่งเดบิตหรือเครดิต ขึ้นอยู่กับลักษณะของบัญชีนั้น เช่น

  • สินทรัพย์ และ ค่าใช้จ่าย : มักมีคงเหลือในฝั่งเดบิต
  • หนี้สิน ทุน และ รายได้ :  มักมีคงเหลือในฝั่งเครดิต

ขั้นตอนที่ 2 : จัดเรียงยอดคงเหลือลงในงบทดลองตามหมวดบัญชี

     เมื่อรวบรวมยอดคงเหลือจากบัญชีแยกประเภทเรียบร้อยแล้ว ขั้นต่อไปคือการนำยอดเหล่านั้นมาเรียงลำดับในงบทดลอง โดยจัดเรียงตามหมวดของบัญชี เพื่อให้เห็นโครงสร้างของงบอย่างชัดเจนและทำให้ตรวจสอบได้ง่ายขึ้น

ลำดับหมวดบัญชีที่ใช้โดยทั่วไป ได้แก่

  • สินทรัพย์ เช่น เงินสด ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ
  • หนี้สิน เช่น เจ้าหนี้การค้า เงินกู้ยืม
  • ทุน เช่น เงินลงทุน กำไรสะสม
  • รายได้ เช่น รายได้จากการขายหรือบริการ
  • ค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่า เงินเดือน ค่าสาธารณูปโภค

     เมื่อนำบัญชีมาเรียงตามหมวดแล้ว ให้ระบุยอดคงเหลือในฝั่งเดบิตหรือเครดิตให้ถูกต้องตามลักษณะของบัญชีนั้น โดยใช้ยอดคงเหลือที่ได้จากบัญชีแยกประเภทในขั้นตอนก่อนหน้า

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจทานยอดรวมฝั่งเดบิตและเครดิตให้ตรงกัน

     เมื่อจัดเรียงลำดับบัญชีลงในงบทดลองเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อมาคือการรวมยอดฝั่งเดบิตและเครดิตทั้งหมด เพื่อตรวจทานว่ายอดเดบิตและเครดิตตรงกันตามหลักบัญชีคู่ หากยอดรวมของทั้งสองฝั่ง “เท่ากัน” แสดงว่าในภาพรวมการบันทึกบัญชีถูกต้องตามหลักบัญชีคู่

แต่หากยอด “ไม่เท่ากัน” หมายความว่าอาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่ง เช่น

  • บันทึกรายการไม่ครบ
  • บันทึกซ้ำซ้อน
  • สลับด้านเดบิต–เครดิต
  • คีย์ตัวเลขผิดหรือใช้บัญชีไม่ตรงกับลักษณะรายการ

     ในกรณีนี้จำเป็นต้องตรวจสอบย้อนกลับไปยังบัญชีแยกประเภท เพื่อค้นหาจุดที่ผิดพลาดและแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนนำงบทดลองไปใช้จัดทำงบการเงิน




ที่มา : https://flowaccount.com/blog/what-is-trial-balance/






---------------------------------------------------------------------------------------

สอบถามเพิ่มเติม

   บริษัท นคร แอคเค้าน์ติ้ง ซัพพอร์ท จำกัด

   Nakhon Accounting Support

   โทร 063-9782261 , 082-6962896

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้