Last updated: 28 มิ.ย. 2568 | 24 จำนวนผู้เข้าชม |
ในยุคที่การช้อปสินค้าและบริการเป็นเรื่องง่ายเพียงปลายนิ้ว หลายคนอาจเคยเห็นหรือได้ยินเกี่ยวกับบริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” หรือ Buy Now Pay Later (BNPL) ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น "SpayLater" จาก Shopee หรือ "Pay Next" จาก True Money Wallet ที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการชำระเงินให้ผู้บริโภคอย่างเรามากขึ้น อย่างไรก็ตาม เราควรศึกษาเงื่อนไขของแต่ละผู้ให้บริการให้ดี เพราะ BNPL ก็คือสินเชื่อประเภทหนึ่ง หากไม่ระมัดระวังในการใช้ อาจทำให้เกิดความเสี่ยงและกลายเป็นหนี้เสียตามมาในภายหลังได้
Buy Now Pay Later (ฺBNLP) คืออะไร?
Buy Now Pay Later (ฺBNLP) คือ รูปแบบการชำระเงินประเภทหนึ่ง ที่คุณจะได้รับสินค้าหรือบริการก่อน แล้วค่อยจ่ายเงินค่าสินค้าหรือบริการนั้น ๆ ในภายหลัง หรืออาจเลือกแบ่งชำระได้ ซึ่งบางครั้งอาจมีดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ แต่จะเป็นดอกเบี้ยในอัตราที่ต่ำ หรืออาจจะไม่เสียดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่บริษัทกำหนดไว้ ซึ่ง Buy Now Pay Later สามารถจัดประเภทเป็นการให้สินเชื่อในรูปแบบหนึ่งได้
รายงานจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (NESDC) เรื่อง "ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง (Buy Now Pay Later) : เทรนด์ในการเข้าถึงสินเชื่อยุคใหม่" ระบุว่า จากกลุ่มตัวอย่าง 2,945 ราย มีผู้ที่เคยใช้บริการ BNPL ร้อยละ 23.1 โดยส่วนใหญ่คือกลุ่มคนอายุราว 29-45 ปี หรือ Gen Y ตามมาด้วย กลุ่มอายุ 15 - 27 ปี หรือ Gen Z นอกจากนี้ ร้อยละ 37 ของกลุ่มตัวอย่างเป็นผู้ที่มีรายได้น้อยกว่า 15,000 บาทต่อเดือน และมียอดผ่อนชำระอยู่ที่ราวเดือนละ 7,500 บาท ขณะที่สินค้าที่ถูกซื้อมากที่สุด คือ
ตัวอย่างธุรกิจ Buy Now Pay Later ในไทยที่กำลังได้รับความนิยม
ข้อดีและข้อเสียของ Buy Now Pay Later
ขอบคุณข้อมูลจาก : สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, BBC News Thai
https://www.bbc.com/thai/articles/c80pymvnk31o, https://www.nesdc.go.th/download/Social/Social_Report/2566_article_q3_001.pdf
20 มิ.ย. 2568
18 มิ.ย. 2568
27 มิ.ย. 2568
26 มิ.ย. 2568